วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันสิ้นโลก 22 ธันวา 2012
2.ชาวมายา (ชนเผ่ามายาแห่งอเมริกากลาง) ทำปฏิทินใช้เองตั้งแต่ 1,000 ปีที่แล้ว ชนเผ่ามายานี้มีความสามารถในการคำนวนการโคจร การเกิดดับของดวงดาวอย่างไม่น่าเชื่อ คือเขาสามารถคำนวนว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์โดยใช้เวลา 365 วัน ตั้งแต่ 1,000 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับปฏิทินที่ชาวโลกปัจจุบันใช้กัน แล้วยังสามารถคำนวนเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลได้อย่างแม่นยำมาก ชาวมายายังกำหนดวันสุดท้ายของปฏิทินของพวกเขาคือ วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) วันนั้นโลกจะถึงจุดสิ้นสุด
วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ประวัติของ Photograph
วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
หน้าที่ที่สำคัญของ GIS
1. เพื่อจัดเก็บ และจัดการสารสนเทศภูมิศาสตร์อย่างละเอียด และมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อแสดงสารสนเทศภูมิศาสตร์ ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
3. เพื่อปฏิบัติการเกี่ยวกับการสอบถาม วิเคราะห์ และประเมินสารสนเทศภูมิศาสตร์อย่างมีระบบและ มีประสิทธิภาพ
ความแตกต่างของ Passive กับ Active
Active remote sensing
ระบบ Active มีแหล่งพลังงานจากการสร้างขึ้นของอุปกรณ์สำรวจในคลื่นไมโครเวฟ สามารถนำไปใช้ใน ระบบเรดาร์ โดยระบบ Active จะส่งผ่านพลังงานไปยังพื้นที่เป้าหมายและบันทึกสัญญาณการกระจัดกระจายกลับ ระบบ Active สามารถทำงานโดยไม่จำกัดด้านเวลาและสภาพภูมิอากาศเพราะว่าในระบบนี้สามารถส่งสัญญาณทะลุผ่านกลุ่มเมฆ หมอก ฝน ทำให้ระบบ Active มีข้อได้เปรียบกว่าระบบ Passive เพราะสามารถบันทึกสัญญาณได้ ทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน
วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552
โครงสร้างฐานข้อมูลแต่ล่ะประเภท
ูฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Datdbase)
โครงสร้างของฐานข้อมูลแบบเครือข่ายประกอบด้วยประเภทของเรคคอร์ด และกลุ่มของข้อมูลของเรคคอร์ดนั้น การจัดข้อมูลอยู่ในความสัมพันธ์แบบพาเรนต์ไชล์ แต่ละสมาชิกสามารถมีความสัมพันธ์กันได้มากกว่าหนึ่ง นั่นคือสามารถมีความสัมพันธ์ของข้อมูลในแบบ N : M ตัวอย่าง กลุ่มข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องวิชาโปรแกรมวิชาเอก จะประกอบด้วยข้อมูลจากเรคคอร์ดหลัก 1 ข้อมูล และข้อมูลของเรคคอร์ดที่เป็นสมาชิก จะเห็นว่าเรคคอร์ดหลัก คือ โปรแกรมวิชา จะมีข้อมูลของเรคคอร์ดที่เป็นสมาชิกคือนักศึกษา ที่เรียนในแต่ละโปรแกรมวิชา จะมีข้อมูลของเรคคอร์ดที่เป็นสมาชิกคือนักศึกษาที่เรียนในแต่ละโปรแกรม
ูฐานข้อมูลแบบเชิงลำดับขั้น (Hierarchical Database)
ฐานข้อมูลแบบเชิงลำดับขั้น เป็นโครงสร้างข้อมูลที่จัดเก็บข้อมูลในลักษณะความสัมพันธ์แบบพ่อ - แม่ - ลูก (Parent Child Relationship Tape : PCR Type)โครงสร้างของฐานข้อมูลเชิงลำดับขั้นประกอบด้วย ประเภทของเรคคอร์ดและมีความสัมพันธ์กัน ดังนี้ 1. ประกอบด้วยเรคคอร์ด 4 ประเภท คือ ชื่อนักศึกษา ชมรม คณะ โปรแกรมวิชา 2. ประกอบด้วยความสัมพันธ์แบบ PCR 3 ประเภท คือ ความสัมพันธ์ของนักศึกษากับชมรมและความสัมพันธ์ของนักศึกษากับคณะวิชา และความสัมพันธ์ของคณะวิชากับโปรแกรมวิชา โดยมีนักศึกษาและคณะเป็นเรคคอร์ดประเภทพ่อ - แม่ (Parent Record Type) และมีชมรมและโปรแกรมวิชาเป็นเรคคอร์ดประเภทลูก (ChildRecord Type)
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นฐานข้อมูลที่มีรูปแบบง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉพาะผู้ใช้ซึ่งไม่ใช่นักวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรม โปรแกรมเมอร์หรือผู้จัดการฐานข้อมูล เป็นต้น ข้อดีที่ผู้ใช้ทั่วไปรู้สึกว่าฐานข้อมูลชนิดนี้เข้าใจง่าย มีดังนี้ 1. ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นกลุ่มของรีเลชั่นหรือตารางที่ข้อมูลถูกจัดเก็บเป็นแถวและคอลัมน์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้เห็นภาพของข้อมูลได้ง่าย 2. ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าข้อมูลถูกจัดเก็บอย่างไร รวมถึงวิธีการเข้าถึงข้อมูล (Access Approach) 3. ภาษาที่ใช้ในการเรียกดูข้อมูล เป็นลักษณะคล้ายภาษาอังกฤษและไม่จำเป็นต้องเขียนเป็นลำดับขั้นตอน 4. การเรียกใช้หรือเชื่อมโยงข้อมูลทำได้ง่ายโดยใช้โอเปอร์เรเตอร์ ทางคณิตศาสตร์ เช่น SELECT ไม่จำเป็นต้องมีตัวชี้ (Pionter) ซึ่งยุ่งยาก
วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ความหมายข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์
เช่น ที่อยู่ บ้านเลขที่ สัมพันธ์กับตำแหน่งในแผนที่ ตำแหน่ง เส้นรุ้ง เส้นแวง ข้อมูลและแผนที่ใน GIS เป็นระบบข้อมูลสารสนเทศที่อยู่ในรูปของตารางข้อมูล และฐานข้อมูลที่มีส่วนสัมพันธ์กับข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Data) จะสามารถนำมาวิเคราะห์ด้วย GIS และทำให้สื่อความหมายในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กับเวลาได้ เมื่อปรากฏบนแผนที่ทำให้สามารถแปลและสื่อความหมาย ใช้งานได้ง่าย
GIS สามารถแปลความหมายเชื่อมโยงกับสภาพภุมิศาสตร์อื่นๆ สภาพท้องที่ สภาพการทำงานของระบบสัมพันธ์กับสัดส่วนระยะทางและพื้นที่จริงบนแผนที่
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552
1.Spatial Distribution หมายถึง การกระจายเชิงพื้นที่ การที่พื้นที่เกิดการกระจายตัวเป็นบริเวณกว้างๆ เช่น การกระจายตัวของสัตว์ป่า การกระจายตัวของชุมชน
2. Spatial Differentiation หมายถึง ความแตกต่างในเชิงพื้นที่ ในพื้นที่แต่ละพื้นที่จะมีลักษณะเฉพาะทางกายภาพและชีวภาพต่างกันและพื้นที่นั้นยังมีทรัพยากรที่มีความหลากหลายต่างกันตามลักษณะของพื้นทีเช่น ความแตกต่างทางด้านภูมิประเทศ บริเวณที่เป็นพื้นที่ราบและ บริเวณภูเขา
3. Spatial Diffusion หมายถึง การแพร่กระจายในเชิงพื้นที่ เช่น การแพร่กระจายของเชื้อโรค จากที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง ที่อยู่ห่างออกไป โดยอาจอาศัยคนเป็นตัวพาหะในการแพร่กระจาย
4. Spatial Interaction หมายถึง ปฏิสัมพันธ์ในเชิงพื้นที่ เป็นการกระทำร่วมกันของสองสิ่งที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องหรือกระทำร่วมกัน เช่น บริเวณที่มีป่าใหญ่ก็จะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เยอะ
5. Spatial Temporal หมายถึง การเปลี่ยนแปลงของช่วงเวลาในเชิงพื้นที่ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิประเทศในช่วงวันที่ 1-10 มิถุนายน
วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ความเเตกต่างของ ข้อมูล กับสารสนเทศ
ข้อมูลที่สามารถนำมาใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ มี 5 ประเภท
1. ข้อมูลตัวเลข (Numeric Data)
2.ข้อมูลตัวอักษร (Text Data)
3.ข้อมูลเสียง (Audio Data)
4. ข้อมูลภาพ (Images Data)
5.ข้อมูลภาพเคลื่อนไหว (Video Data)
สารสนเทศ จะมีควาหมายอย่างกว้างขวางและหลาหลาย สารสนเทศจะเป็นการจัดข้อมูลโดยการนำความรู้ที่ได้เข้าไปต่อผู้รับสารสนเทศ เเนวคิดของสารสนเทศมีความหมายใกล้เคียงกับการสื่อสาร เงื่อนไขการควบคุมข้อมูล รูปแบบ คำสั้งปฏิบัติการ ความรู้ ความหมายการรับรู้เเละการเเทนความหมาย
วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ระบบข้อมูลสารสนเทศทางภูมิศาสตร์
1.I nternet Map Server เป็นการให้บริการข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงพื้นที่ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เเละสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้โดยเป็นอิสระจากซอฟต์แวร์ GIS และรูปแบบของไฟล์
2. Geographic Database เป็นฐานข้อมูลที่เก็บข้อมูลภูมิศาสตร์ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และจะจัดเก็บไว้ใน 2 รูปแบบคือแบบ Spatial Data หรือข้อมูลเชิงพื้นที่ คือ ข้อมูลที่ทราบตำแหน่งทางพื้นดิน และแบบ Non Spatial Data หรือ ข้อมูลที่ไม่อยู่ในรูปเชิงพื้นที่ ได้แก่ข้อมูลที่เกี่ยวกับคุณลักษณะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นั้นๆ ( Associated Attributes) เช่น ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน ข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประชากร เป็นต้น
3.ArcIMS เป็นโปรแกรมแผนที่ออนไลน์ในการให้บริการข้อมูลระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์บนอินเทอร์เน็ตซึ่งสร้างโดย Environmental System Research Institute (ESRI) ในการสื่อสารระหว่างเครื่องแม่ข่าย ( Server ) กับเครื่องลูกข่าย (Clients) สามารถเปิดได้จากเว็บบราวเซอร์ โปแกรม ArcIMS เป็น GIS ตัวหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้บริการแผนที่บนอินเตอร์เน็ต แผนที่ทั่วไปที่สร้างด้วยโปรแกรมเขียนเว็บไซต์อื่นๆนั้นสามารถดูหรือขยายได้บ้าง แต่เว็บไซต์ที่สร้างด้วยโปรแกรม ArcIMS นอกจากขยายได้แล้วยังสามารถบอกตำแหน่งเชิงพิกัดและยังดึงเอาข้อมูลต่างๆมาแสดงบนหน้าเว็บเพจได้ อาทิเช่น สัญลักษณ์ (Symbol) ป้ายชื่อ (Label)
ArcIMS ประกอบด้วยแผนที่เป็นชั้นๆ ที่สามารถเลือกปิดและเปิดบางชั้นได้ หรือลักษณะเฉพาะที่สามารถแสดงข้อมูลเป็นส่วนๆได้ ผู้เยี่ยมชมเว็บไซด์ที่สร้างโดย ArcIMS นั้นไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมอะไรในการเปิดมากไปกว่า เว็บบราวน์เซอร์ และสามารถที่จะทำงานบนระบบจัดการที่เป็น Windows, UNIX เป็นโปรแกรมที่สามารถใช้งานบนเครื่อง PC computer สามารถแสดงผล จัดการสอบถาม วิเคราะห์ ผสมผสานข้อมูลแผนที่ได้อัตโนมัติ