ภาพที่เราเห็นส่วนใหญ่จะสร้างโดยไฟ จากนั้นมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาทำให้สามารถใช้กล้องถ่าย ซึ่งในการถ่ายเราจำเป็นต้องมีฟิล์มปกติ หรือ image อิเล็กทรอนิกเช่น CCD หรือ CMOS ซึ่งกล้องจะใช่เลนส์ wavelengths ซึ่งจะมองภาพของแสงโดยใช้สายตาเพื่อมองให้เห็นภาพที่ชัดเจน ซึ่งกระบวนการแล้ววิธีการเราเรียกว่า "ถ่ายภาพ" ถูกตั้งโดย Sir John Herschel ในปี 1839 หรือเขาตั้งชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "การวาดภาพด้วยแสง" ซึ่งภาพแรกทำในปี 1825 โดยสถาปนาฝรั่งเศส ถูกค้นพบโดยHeinrich Schultz (1724) โดยที่ภาพถูกทำด้วยเงินและ Darkens ใช้ในการผสมปูนขาวในการแสดงเพื่อ Light ต่อมากระบวนการนี้ได้ถูกปรับปรุงโดย Niepce และ Louis Daguerre
วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
หน้าที่ที่สำคัญของ GIS
หน้าที่ของ GIS
ระบบการทำงานของ GIS สามารถแบ่งการทำงานที่สำคัญได้ 3 อย่าง คือ
1. เพื่อจัดเก็บ และจัดการสารสนเทศภูมิศาสตร์อย่างละเอียด และมีประสิทธิภาพ
1. เพื่อจัดเก็บ และจัดการสารสนเทศภูมิศาสตร์อย่างละเอียด และมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อแสดงสารสนเทศภูมิศาสตร์ ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
3. เพื่อปฏิบัติการเกี่ยวกับการสอบถาม วิเคราะห์ และประเมินสารสนเทศภูมิศาสตร์อย่างมีระบบและ มีประสิทธิภาพ
ความแตกต่างของ Passive กับ Active
Passive remote sensing
ในระบบ Passive จะเก็บข้อมูลได้ในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งในระบบนี้จำเป็น ต้องมีดวงอาทิตย์เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานตามธรรมชาติ ซึ่งระบบ Passive ต้องอาศัยการสะท้อนพลังงานชองวัตถุบนพื้นโลกด้วยแสงอาทิตย์เสมอ ระบบ Passive ไม่สามารถบันทึกข้อมูลได้ดีในช่วงที่ฟ้าปิด เช่นช่วงฤดูฝน ช่วงที่มีเมฆมาก และช่วงที่มีหมอกปกคลุมอยู่หนาแน่น ในระบบ Passive สามารถบันทึกข้อมูลได้ในช่วงอืนฟราเรดความร้อน ซึ่งเป็นการแผ่พลังงานความร้อน จากวัตถุบนพื้นผิวโลกในเวลากลางคืน
Active remote sensing
ระบบ Active มีแหล่งพลังงานจากการสร้างขึ้นของอุปกรณ์สำรวจในคลื่นไมโครเวฟ สามารถนำไปใช้ใน ระบบเรดาร์ โดยระบบ Active จะส่งผ่านพลังงานไปยังพื้นที่เป้าหมายและบันทึกสัญญาณการกระจัดกระจายกลับ ระบบ Active สามารถทำงานโดยไม่จำกัดด้านเวลาและสภาพภูมิอากาศเพราะว่าในระบบนี้สามารถส่งสัญญาณทะลุผ่านกลุ่มเมฆ หมอก ฝน ทำให้ระบบ Active มีข้อได้เปรียบกว่าระบบ Passive เพราะสามารถบันทึกสัญญาณได้ ทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)